วันที่ 10 ม.คคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า กกร.เห็นตรงกันว่ารัฐบาลควรจัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนสินเชื่อในการทำธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการที่มีความเสี่ยงสูง โดยให้รัฐบาลสนับสนุนเงินทุนจัดตั้งในช่วงแรกก่อน จากนั้นถึงนำดอกเบี้ยหรือได้เงินมาบริหารหมุนเวียนในกองทุน เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีให้มีหลักประกันในการเข้าถึงสินเชื่อ

ทั้งนี้ที่ผ่านมาสถาบันการเงินให้ความช่วยเหลือลดภาระต้นทุนทางการเงินให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมียอดภาระหนี้ที่สถาบันการเงินให้ความช่วยเหลืออีกกว่า 3.4 ล้านล้านบาท หรือมากกว่า 6.1 ล้านบัญชี และตั้งแต่สถานการณ์โควิดมีต้นทุนทางเครดิตที่เกิดขึ้นในระบบธนาคารพาณิชย์มูลค่ารวมกว่า 6 แสนล้านบาท หรือ 6% ของสินเชื่อ และสถาบันการเงินจะยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลช่วยเหลือลูกค้าตรงกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่องคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

นอกจากนี้ กกร.ยังเสนอให้รัฐบาลดำเนินการในปี 67 โดยสานต่อการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างที่ กกร. เคยเสนอ เช่น พัฒนาคน, เอสเอ็มอี, ความยั่งยืน, การปรับเปลี่ยนด้านดิจิทัล และความสะดวกในการทำธุรกิจ เป็นต้น การให้เศรษฐกิจนอกระบบมาอยู่ในระบบ เพราะเศรษฐกิจนอกระบบของไทยมีขนาดใหญ่เกินไป เป็นต้นตอของหลายปัญหา โดยมีขนาดใหญ่ถึง 47.6% ต่อจีดีพี สูงกว่าประเทศคู่เทียบและมีแรงงานนอกระบบมากถึง 51% ของแรงงานทั้งหมด

ขณะที่เศรษฐกิจนอกระบบยังขาดข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น ขนาดของหนี้นอกระบบที่ข้อมูลทางการระบุว่ามี 1 แสนล้านบาท แต่หากประเมินด้วยวิธีอื่นอาจสูงถึง 3-4 ล้านล้านบาท โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) พบว่าการมีเศรษฐกิจนอกระบบขนาดใหญ่เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจโตต่ำกว่าศักยภาพ เข้าไม่ถึงสินเชื่อในระบบ และมีความเหลื่อมล้ำสูง

ส่วนอีกเรื่องเป็นการเร่งเครื่องในการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนโดยเฉพาะหนี้นอกระบบ หลังผลสำรวจพบว่าครัวเรือนมีโอกาสที่จะพึ่งพาหนี้นอกระบบมากขึ้น ดังนั้น การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาลจึงมาถูกทางเพื่อตัดวงจรหนี้ มีฐานข้อมูลกลางที่เชื่อถือได้ ปฏิรูปข้อมูลหนี้ทั้งในและนอกระบบ เร่งให้สหกรณ์เข้าสู่ระบบข้อมูลเครดิตแห่งชาติให้ครบถ้วน และทำควบคู่ไปกับการยกระดับรายได้

นายสนั่น กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้คาดว่าขยายตัว 2.8-3.3% มีแรงส่งจากมาตรการอีซี่ อี-รีซีท สนับสนุนเศรษฐกิจได้ 0.18% ส่วนการฟื้นตัวท่องเที่ยวจะมีนักท่องเที่ยว 33-34 ล้านคนในปีนี้มากกว่าปี 66 ที่มี 28 ล้านคน ด้านการส่งออกขยายตัว 2-3%, เงินเฟ้อ 0.7-1.2% ซึ่งถ้าหากรวมเงินดิจิทัลวอลเล็ตจะเพิ่มจีดีพีอีก 1%

“กกร.เห็นตรงกัน แม้เศรษฐกิจฟื้นตัว แต่กำลังซื้อประชาชนในภูมิภาคอ่อนแอ จำเป็นต้องให้รัฐบาลใช้มาตรการเสริมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยไม่ต้องรองบประมาณใหม่ สิ่งที่มีงบค้างท่ออยู่อยากให้รัฐบาลหารือภาครัฐที่เป็นรัฐวิสาหกิจ หรือการปกครองส่วนท้องถิ่น นำงบประมาณค้างท่ออยู่ออกมาใช้ให้เร็วที่สุด ซึ่งต้องเตรียมแผนงบประมาณไว้ล่วงหน้าเมื่อเริ่มใช้ พ.ค.นี้จะได้เบิกจ่ายใช้ออกมาได้อย่างรวดเร็ว”