นักวิเคราะห์ ชี้การเสียชีวิตของ "ปริโกชิน"อาจเป็นเพียงละครตบตา
ตอนนี้ทางการรัสเซียกำลังสืบสวนหาสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตก แต่สำนักข่าวชาติตะวันตกหลายสำนักระบุว่า สิ่งที่ทำให้เครืองบินของปริโกชินตก คือ ขีปนาวุธของระบบป้องกันภัยทางอากาศรุ่น S-300 อย่างไรก็ดี ทางการสหรัฐฯ ออกมาให้ความเห็นว่าการเสียชีวิตของผู้ก่อตั้งกลุ่มแวกเนอร์อาจไม่ได้เกิดจากขีปนาวุธดังกล่าว
ความเห็นเรื่องนี้มาจากพลจัตวา แพต ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่า ข้อมูลจากการประเมินเบื้องต้นชี้ให้เห็นว่าปริโกชินอาจถูกสังหารจากการวางระเบิดตามคำสั่งของวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย
นักวิเคราะห์ เชื่อ “ปริโกชิน” อาจถูกสังหารหลังทรยศ "ปูติน"
แวกเนอร์-ประชาชนรัสเซียไว้อาลัย “ปริโกชิน-อุตกิน” คำพูดจาก เว็บสล็อตลิขสิ
ส่วนข้อมูลที่ชี้ว่าขีปนาวุธ S-300 เป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินของปริโกชินตกนั้น มีความคลาดเคลื่อนสูง และสหรัฐฯ จำเป็นต้องวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ความเห็นและการประเมินของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ เป็นไปในทิศทางเดียวกับการประเมินของนักวิเคราะห์จากสำนักข่าวเดอะนิวยอร์กไทมส์ที่ระบุว่า จุดที่เครื่องบินตกและการกระจายของเศษซากเครื่องบินตลอดระยะทางความยาวเกือบ 2 กิโลเมตร เผยให้เห็นว่าเครื่องบินอาจเกิดการระเบิด หรือตัวชิ้นส่วนบางส่วนเสียหาย ไม่ใช่ความผิดพลาดทางเทคนิค
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังได่ประเมินว่า มีความเป็นไปได้ที่เครื่องบินอาจเกิดเหตุบางอย่างขึ้นกลางอากาศ ก่อนที่ตัวเครื่องบินจะตกในอีกไม่กี่นาทีต่อมา
สาเหตุที่มีการประเมินออกมาเช่นนี้ เป็นเพราะข้อมูลเที่ยวบินจาก FlightRadar24 บ่งชี้ว่า เครื่องบินลดระดับเพดานบินในช่วงเวลา 18.19 นาฬิกาของวันพุธตามเวลาท้องถิ่น แต่ยังคงบินต่อไปได้อีกหลายนาทีและบินไปไกลราว 48 กิโลเมตร ก่อนที่ตัวเครื่องบินจะหมุนและไปตกในแคว้นทเวียร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ทางตอนเหนือของกรุงมอสโก เอียน วิลเลียมส์ รองผู้อำนวยการโครงการขีปนาวุธเพื่อการป้องกันของศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์และการต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวว่า
ตามปกติแล้วเครื่องบินจะไม่ตกจากท้องฟ้าในแนวดิ่งแบบที่เกิดขึ้นกับกรณีเครื่องบินของปริโกชิน ยกเว้นมีอะไรบางอย่างขัดขวางการเคลื่อนที่ของเครื่องบิน
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ระบุว่ายังไม่สามารถยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตก แต่จากการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น การวางระเบิดเครื่องบินของปริโกชิน ก็เป็นอีกหนึ่งความเป็นไปได้ตามที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ประเมินไว้
นอกจากสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินของปริโกชินตกแล้ว ทางหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ยังได้ประเมินข้อถกเถียงในหมู่สาธารณชนที่ว่า ปริโกชินได้โดยสารไปกับเครื่องบินลำดังกล่าวที่ตกและเสียชีวิตจริงหรือไม่
สำหรับเรื่องนี้ หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ประเมินว่าปริโกชินอาจเสียชีวิตในที่เกิดเหตุพร้อมกับผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่อยู่ในรายชื่อผู้โดยสารจริง
อย่างไรก็ดี เคียร์ ไจล์ส ที่ปรึกษาอาวุโสประจำแชธัม เฮาส์ (CHATHAM HOUSE) สถาบันนโยบายอิสระในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ให้ความเห็นไว้อย่างน่าสนใจว่า แม้จะมีการประเมินว่าเยฟเกนี ปริโกชิน อาจโดยสารไปกับเครื่องบินลำที่ตก แต่ทุกฝ่ายควรรอการประกาศยืนยันการเสียชีวิตก่อน เพราะสิ่งที่รัสเซียชี้แจงออกมามักแตกต่างจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง
เคียร์ ไจล์ส ระบุว่า มีคนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่านี่คือละครตบตาชาวโลกเพื่อหาทางลงให้กับปริโกชิน รวมถึงทำให้ปริโกชินไม่ตกเป็นเป้าของสาธารณชน หลังจากพยายามก่อกบฏท้าทายอำนาจประธานาธิบดีปูตินเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ การเล่นละครบทนี้จะเป็นผลดีต่อผู้นำรัสเซียด้วย เพราะเป็นการส่งสัญญาณเตือนผู้ที่อาจจะต้องการท้าทายอำนาจของประธานาธิบดีรัสเซียในอนาคต
ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่เหตุการณ์เครื่องบินของเยฟเกนี ปริโกชินตกในครั้งนี้ ทำให้หลายฝ่ายสันนิษฐานว่าอาจเป็นฝีมือของประธานาธิบดีปูติน เพราะหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้นำรัสเซียและเจ้าหน้าที่ระดับสูงไม่ปรากฏตัวหรือให้ความเห็นต่อสาธารณชนเลยเป็นเวลากว่าหนึ่งวันเต็มอย่างไรก็ดี ล่าสุดผู้นำรัสเซียได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับการจากไปของอดีตคนสนิทรายนี้แล้ว
ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อการจากไปของเยฟเกนี ปริโกชิน พร้อมระบุว่า เยฟเกนี ปริโกชิน, ดมิทรี อุตกิน และผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ ได้ทำคุณประโยชน์ต่อรัสเซียด้วยการปราบนีโอนาซีในยูเครน และรัสเซียจะไม่มีวันลืมเรื่องนี้ ขณะเดียวกัน ผู้นำรัสเซียยังได้เล่าเรื่องราวของตนเองกับปริโกชิน พร้อมชื่นชมว่าปริโกชินเป็นนักธุรกิจที่มีความสามารถ ตลอดจนมีส่วนร่วมกับธุรกิจในแอฟริกา
ด้วยบทบาทของปริโกชินและกลุ่มแวกเนอร์ในทวีปแอฟริกา ทำให้หลังจากมีข่าวการเสียชีวิตของปริโกชิน ประชาชนในประเทศไนเจอร์ได้ออกมาร่วมรำลึกถึงปริโกชิน ขณะนี้ประเทศไนเจอร์กำลังเผชิญกับการรัฐประหารและมีความเป็นไปได้ว่ากลุ่มแวกเนอร์อาจเข้าไปขยายอิทธิพล
ฮาเหม็ด อิสซิฟู เบลโล นักเคลื่อนไหวชาวไนเจอร์ที่เป็นสายโปรรัสเซียรายนี้ระบุว่า ปริโกชินเป็นหนึ่งในผู้ที่นำนโยบายของรัสเซียมาปฏิบัติจริงในแอฟริกา โดยเฉพาะด้านความมั่นคงนักเคลื่อนไหวรายนี้ระบุว่า ปริโกชินเป็นคนสำคัญทางด้านการทหาร เพราะแวกเนอร์ คือกลุ่มที่คอยปราบปรามกลุ่มติดอาวุธจีฮัดและกลุ่มก่อความไม่สงบ รวมถึงฝึกสอนให้กับกองทัพของหลายชาติในแอฟริกา ฮาเหม็ดหวังว่ารัสเซียจะหาผู้ที่มีความสามารถเช่นเดียวกับปริโกชินมาสานต่องานที่ค้างไว้ได้
ด้านวินเซนต์ ซาบานา นักวิจัยจากมหาวิทยาบางกูยในประเทศบูร์กินา ฟาโซ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีกลุ่มแวกเนอร์หนุนหลังรัฐบาลอยู่ ได้ให้ความเห็นว่าการจากไปของปริโกชินอาจไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มแวกเนอร์ในทวีปแอฟริกามากนัก เพราะทุกคนรู้กันดีว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังการมาของแวกเนอร์คือ ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย
แม้ว่านักวิจัยในแอฟริกาจะให้ความเห็นว่าการจากไปของปริโกชินจะไม่มีผลต่อปฏิบัติการของรัสเซียและกลุ่มแวกเนอร์ในแอฟริกามานัก แต่แอนดรูว์ บอร์น ผู้อำนวยการบริหารของแฟลชพอยท์ บริษัทด้านหน่วยข่าวกรองของสหราชอาณาจักรให้ความเห็นว่า การจากไปของปริโกชิน รวมถึงดมิทรีอุตกิน ผู้บัญชาการตัวจริงของกลุ่มแวกเนอร์ จะทำให้ปฏิบัติการและเป้าหมายของผู้นำรัสเซียทั้งในยูเครนและแอฟริกาสั่นคลอน