ยูเครน เผยระบบป้องกันภัยทางอากาศช่วยปกป้องน่านฟ้า
ไม่ว่าจะเป็นในสนามรบภาคพื้นดิน การสู้รบทางอากาศด้วยโดรนและขีปนาวุธ หรือ การโจมตีทางน้ำของยูเครนด้วยการใช้ "เรือไร้คนขับ" นอกจากการต่อสู้กันโดยตรงแล้ว อีกหนึ่งวิธีที่ทั้งสองฝ่ายใช้คือ การตัดกำลังบำรุง
เช่น การโจมตีคลังเก็บอาวุธหรือเส้นทางขนส่งของอีกฝ่าย ล่าสุด ทางการรัสเซียได้ออกมาระบุว่า ยูเครนโจมตีสะพานสำคัญบริเวณช่องแคบชอนการ์จนได้รับความเสียหายคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ชายรัสเซียถูกจับ เพราะลูกสาววาดภาพต่อต้านสงคราม
โดรนโจมตีโรงงานผลิตกระสุนในอิหร่าน หวังสร้างความไม่มั่นคงภายใน
วลาดิเมียร์ ซัลโด ผู้ว่าการแคว้นเคอร์ซอนที่แต่งตั้งโดยรัสเซีย ระบุว่ายูเครนยิงขีปนาวุธสตอร์ม แชโดว์จำนวน 2 ลูก ถล่มสะพานสองแห่งบริเวณช่องแคบชอนการ์ ช่องแคบที่เชื่อมระหว่างคาบสมุทรไครเมียและแคว้นเคอร์ซอนด้านตะวันออก
ผลจากการโจมตีทำให้พื้นที่สะพานบางส่วนเป็นรูโหว่และอยู่ในสภาพเอียงและเกือบหักเป็นสองส่วนสะพานทั้งสองแห่งที่ถูกขีปนาวุธสตอร์ม แชโดว์โจมตีครั้งนี้คือ สะพานชอนการ์และสะพานเฮนิเชสกี โดยทั้งสองสะพานทำหน้าที่เชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างคาบสมุทรไครเมียไปยังแผ่นดินใหญ่ของยูเครนบริเวณแคว้นเคอร์ซอนตะวันออก
หลังจากเกิดเหตุ ผู้ว่าการแคว้นเคอร์ซอนได้ออกโรงประณามยูเครน โดยระบุว่านี่คือการลอบโจมตีที่ไม่สามารถให้อภัยได้ เนื่องจากสะพานทั้งสองแห่งนี้ไม่ใช่เป้าหมายหรือสถานที่ทางการทหาร แต่เป็นสะพานที่พลเรือนใช้เพื่อสัญจรเท่านั้น
ขณะเดียวกัน วลาดิเมียร์ ซัลโดกล่าวเสริมว่า ผลจากการโจมตียังทำให้ท่อส่งก๊าซที่อยู่ข้างสะพานได้รับความเสียหาย ส่งผลกระทบต่อประชาชนในเมืองเฮนีเชสก์กว่า 20,000 คน ที่ต้องพึ่งพาท่อส่งก๊าซดังกล่าวด้วย
บรรดานักวิเคราะห์มองว่าการทำลายสะพานที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ตลอดจนการพยายามทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางการทหารของรัสเซียบนคาบสมุทรไครเมีย ชี้ให้เห็นว่า หนึ่งในภารกิจสำคัญของกองทัพยูเครนตอนนี้ คือ การตัดคาบสมุทรไครเมียออกจากแผ่นดินใหญ่ที่รัสเซียยึดครองอยู่
นอกจากการโจมตีที่เกิดขึ้นในช่องแคบชอนการ์แล้ว วันนี้วลาดิสลาฟ ชัปชา ผู้ว่าการแคว้นคาลูกา ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงมอสโก รายงานว่ารัสเซียถูกโจมตีด้วยโดรน ทั้งนี้ ระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียสามารถยิงสกัดโดรนเอาไว้ได้ ทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
การโจมตีสะพานบนช่องแคบชอนการ์และพื้นที่ใกล้กรุงมอสโก เกิดขึ้นในระยะเวลาที่ไล่เลี่ยกับการฉลองวันกองทัพอากาศแห่งชาติยูเครนซึ่งตรงกับวันที่ 6 สิงหาคม โดยประธานาธิบดีเซเลนสกีได้ไปร่วมฉลองวันกองทัพอากาศด้วยตนเอง
โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้เดินทางไปที่ฐานทัพอากาศแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ได้มีการระบุสถานไว้ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันกองทัพอากาศกับเหล่าทหาร ภาพวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ออกมาเป็นภาพขณะที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีเขียนข้อความว่า “สลาวา อูไครนี” หรือ “ยูเครนจงเจริญ” บนขีปนาวุธพิสัยไกลรุ่นสกัลป์ที่ได้รับมอบมาจากรัฐบาลฝรั่งเศส นอกจากนี้ ผู้นำยูเครนยังได้เดินเยี่ยมชมระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ถูกนำมาแสดงอย่างระบบแพทริออตและไอริส ที-เอสแอลเอ็ม ที่ได้รับมอบมาจากสหรัฐฯ และเยอรมนี
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ ผู้นำยูเครนได้เดินทางกลับมายังกรุงเคียฟและอัดคลิปวิดีโอกล่าวขอบคุณชาติพันธมิตรที่ส่งมอบระบบป้องกันภัยทางอากาศให้ยูเครน โดยระบุว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ได้รับมามีประประสิทธิภาพสูง สามารถปกป้องน่านฟ้ายูเครนได้จริง
แม้ยูเครนจะมีระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ดี แต่ก็ยังมีรายงานว่ายูเครนถูกโจมตีทางอากาศเช่นเดียวกัน เนื่องจากระบบป้องกันภัยทางอากาศไม่สามารถยิงสกัดขีปนาวุธรัสเซียที่ถูกยิงเข้ามาจำนวนมากได้ โดยเมื่อวานยูเครนรายงานว่ารัสเซียโจมตีทางอากาศใส่หลายพื้นที่ด้วยอาวุธกว่า 70 ชิ้น
ภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นบริเวณยุ้งฉางเก็บข้าวโพดในเมืองสตาโรคอสเตียนตินิฟ แคว้นคเมลนิตสกี พื้นที่ทางภาคตะวันตกของยูเครน หลังรัสเซียกระหน่ำโจมตีทางอากาศใส่
หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่ายุ้งฉางเก็บข้าวโพดแห่งนี้ไม่ใช่เป้าหมายของรัสเซีย แต่เป้าหมายที่รัสเซียต้องการโจมตีคือ สนามบินของกองทัพอากาศยูเครนที่ตั้งอยู่ในเมืองแห่งนี้
สถาบันเพื่อการศึกษาสงครามรายงานโดยอ้างข้อมูลของบรรดาบล็อกเกอร์สายทหารชาวรัสเซีย ที่ระบุว่าสาเหตุที่กองทัพรัสเซียมุ่งเป้าโจมตีสนามบินดังกล่าว เป็นเพราะเชื่อว่ากองทัพยูเครนเก็บขีปนาวุธสตอร์ม แชโดว์ ที่ได้รับมอบมาจากสหราชอาณาจักรไว้ที่นี่
อย่างไรก็ดี ISW ระบุว่าไม่มีหลักฐานใดที่บ่งชี้ว่าขีปนาวุธพิสัยไกลของสหราชอาณาจักรถูกเก็บไว้ที่สนามบินแห่งนี้
ขณะเดียวกัน ความพยายามโจมตีของรัสเซียครั้งนี้ก็สะท้อนให้เห็นว่า รัสเซียกังวลอย่างมากกับการโต้กลับของยูเครนด้วยวิธีการใช้ขีปนาวุธพิสัยไกล
นอกจากการสู้รบโจมตีที่ดำเนินไปอย่างดุเดือดแล้ว อีกด้านหนึ่ง นานาชาติก็พยายามร่วมกันหาวิธีเพื่อนำไปสู่การยุติสงครามและสร้างสันติภาพในยูเครน โดยครั้งนี้เป็นความพยายามของซาอุดีอาระเบีย หนึ่งในมหาอำนาจประจำภูมิภาคตะวันออกกลาง
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อาวุโสจาก 40 ชาติ รวมถึงสหรัฐฯ จีน และอินเดีย ได้เข้าร่วมการเจรจาเกี่ยวกับการสร้างสันติภาพในยูเครน ที่จัดขึ้นในนครเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อหวังหาทางออกให้กับสถานการณ์สงครามในยูเครนผ่านสูตรสันติภาพ 10 ประการของฝั่งยูเครน
การเจรจานี้เสร็จสิ้นไปเมื่อวานนี้ ( 6 ส.ค.)โดยผลการประชุมเป็นไปได้ด้วยดี มีความคืบหน้า แต่ไม่มีข้อสรุปหรือทางออกสำหรับวิกฤตในยูเครนที่เป็นรูปธรรมออกมา
ทำให้กระทรวงการสื่อสารของซาอุดีอาระเบียออกแถลงการณ์ว่า ที่ประชุมมีมติให้มีการหารืออย่างต่อเนื่อง เพื่อปูทางสู่กระบวนการสันติภาพอย่างยั่งยืน โดยหลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาเพื่อดูแลประเด็นนี้โดยเฉพาะ
ด้านหลี่ ฮุย ทูตพิเศษด้านกิจการภูมิภาคยูเรเชียของจีน ซึ่งหลายฝ่ายให้ความสนใจ เพราะเขาเป็นผู้แทนจีนคนแรกที่มาเข้าร่วมวงประชุมสันติภาพเช่นนี้ ได้ระบุว่า แม้แต่ละฝ่ายจะมีความเห็นหรือจุดยืนที่ต่างกัน แต่ทุกฝ่ายก็ได้มาแบ่งปันจุดยืนต่อกันและกันท่าทีของจีนในการประชุมครั้งนี้ ทำให้แหล่งข่าวจากฝั่งยุโรประบุว่า จีนค่อนข้างเห็นด้วยกับการเจรจาเช่นนี้ และอาจเข้าร่วมการประชุมในครั้งถัดไป