พาไปดู ย่านห้วยขวาง ที่ก่อนหน้านี้ถูกเรียกว่าเป็น นิวไชน่าทาวน์เมืองไทย มีกลุ่มทุนจีนเข้ามาลงทุนเปิดธุรกิจหม้อไฟหม่าล่าจำนวนมาก เต็มสองฝั่งถนน แต่ล่าสุดพบว่า หลายร้านเริ่มทยอยปิดกิจการ ประกาศเซ้ง บรรยากาศการค้าขายในย่านห้วยขวางก็ซบเซา วันนี้ทีมข่าว PPTV เลยลงพื้นที่ไปสำรวจ พบข้อมูลที่น่าตกใจเพียงแค่ 3 เดือนแรกของปีนี้ ธุรกิจร้านอาหารจีนในย่านห้วยขวางปิดตัวไปแล้วมากกว่า 10 ราย

ทีมข่าว PPTV ลงพื้นที่สำรวจ ย่านประชาราษฎร์บำเพ็ญ ห้วยขวาง กรุงเทพฯ วันนี้พบว่าร้านอาหารจีนประเภทหม้อไฟหม่าล่าหลายร้านยังเปิดให้บริการตามปกติ แต่บรรยากาศค่อนข้างเงียบ บางร้านแทบไม่มีลูกค้านั่งรับประทานอยู่ในร้านเลย ขณะที่ร้านหม้อไฟหม่าล่าเจ้าดัง ที่เคยมีลูกค้าต่อแถวรอคิวหน้าร้านยาวเหยียดวันนี้กลับไม่มีลูกค้านั่งรอหน้าร้านเหมือนเมื่อก่อน

จากการสำรวจ ยังพบว่า มีร้านหม้อไฟหม่าล่า หลายร้านปิดกิจการบางร้านป้ายหน้าร้านอยู่ในสภาพทรุดโทรมข้าวของภายในร้านวางซ้อนกันอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมใช้งานขณะที่บางร้าน ถึงขั้นติดป้ายประกาศเซ้งร้านหาเจ้าของรายใหม่ มาสานต่อกิจการ

ทีมข่าว ได้พูดคุยกับคุณอาฉี แซ่หูเจ้าของขายอาหารจีน ในย่านประชาราษฎร์บำเพ็ญยอมรับว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน บรรยากาศการค้าขายในย่านประชาราษฎร์บำเพ็ญซบเซาลงไปมากเพื่อนชาวจีนที่เปิดร้านหม้อไฟหม่าล่าตัดสินใจปิดกิจการไปแล้ว 5-6 ราย เหตุผลหลักๆมาจากการแข่งขันของธุรกิจหม้อไฟหมาล่าในย่านนี้สูงมากต้องแข่งขันกันแย่งลูกค้า เพราะทุกร้านขายอาหารเหมือนๆกันทั้งหมด ขณะที่ค่าเช่าตึก ราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น ทำให้หลายคน ขาดทุน ไปต่อไม่ไหว ตัดสินใจเลิกกิจการและประกาศเซ้งร้าน

เปิดต้นทุน"หม้อไฟหม่าล่าทุนจีน " รายจ่ายพุ่งหลักแสนต่อเดือน

ขณะที่เจ้าของร้านอาหารจีน ในย่านห้วยขวางอีกรายเปิดเผยกับทีมข่าว PPTV ระบุว่า การเปิดร้านหม้อไฟ หม่าล่าในย่านประชาราษฎร์บำเพ็ญมีต้นทุนสูง ทั้งค่าเช่าตึก 45,000-50,000 บาทต่อเดือนต่อคูหา บางร้านเช่า 2 คูหาก็ทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น ค่าจ้างพนักงานไม่ต่ำกว่าเดือนละ 18,000 บาทต่อคน ค่าจ้างพ่อครัว 20,000-40,000 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ยังมีค่าน้ำ ค่าไฟและค่าวัตถุดิบที่จะต้องจ่าย รวมต้นทุนต่อเดือนมากกว่า100,000 บาท สวนทางกับจำนวนลูกค้าชาวจีนที่มาท่องเที่ยวในย่านห้วยขวางที่ลดลง ทำให้ยอดขายตก ไม่คุ้มทุน

ขณะที่บางร้านที่ประกาศปิดกิจการ ก็มีคนจีนกลุ่มใหม่ที่มาเซ้งร้านต่อ ส่วนใหญ่จะเป็นทุนจีน ที่มีเงินหนา เพราะขณะนี้ราคาที่ประกาศเซ้งร้านหม้อไฟหมาล่าในย่านประชาราษฎร์บำเพ็ญ ขณะนี้พุ่งขึ้นมากกว่า 1 ล้านบาท

เผย 3 เดือน ร้านทุนจีนห้วยขวางเจ๊งแล้ว 12 ราย

ด้านนายไพฑูรย์ งามมุข ผู้อำนวยการเขตห้วยขวาง เปิดเผยว่า ธุรกิจหม้อไฟหมาล่าในย่านห้วยขวางซบเซาลง ตั้งแต่เดือนมกราคม ปีนี้ จนถึงปัจจุบัน มีร้านอาหารจีนรวมทั้งร้านหม่าล่าในพื้นที่ห้วยขวางปิดกิจการไปแล้ว 12 ราย จากทั้งหมด 82 รายโดยร้านที่ปิดกิจการส่วนใหญ่เป็นกลุ่มทุนจีนที่นำเงินมาลงทุนโดยไม่ได้ขออนุญาต หรือไปลงทุนในพื้นที่ ที่ไม่สามารถเปิดเป็นร้านอาหารได้ ถูกดำเนินคดี และถูกสั่งปิดกิจการ

ขณะที่บางร้านแม้จะขออนุญาตถูกต้อง แต่เปิดกิจการไปแล้วมีปัญหา เช่น มีปัญหาเรื่องสุขอนามัยถูกสั่งให้ปรับปรุง ติดตั้งเครื่องดักไขมัน เครื่องดูดควัน แต่ไม่ยอมแก้ไข เพราะไม่อยากลงทุนเพิ่ม ก็เลือกที่จะปิดกิจการไปเองส่วน บางราย ต้องแข่งขันสูง กับธุรกิจหม้อไฟหมาล่าด้วยกันเอง จนสู้คู่แข่งไม่ไหว ยอดขายลดลง นักท่องเที่ยวจีนก็ไม่มาตามคาด สุดท้ายต้องทยอยปิดกิจการไป

ผอ.เขตห้วยขวาง ระบุด้วยว่าการทยอยปิดกิจการของธุรกิจหม้อไฟหมาล่า กระทบบรรยากาศการค้าขายในย่านห้วยขวางอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าจะไม่ถึงขั้นเงียบเหงาเหมือนช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา เพราะแม้จะมีทุนจีนบางส่วนที่ทยอยปิดกิจการไป แต่ก็พบว่ามีทุนจีนกลุ่มใหม่ๆเข้ามาเซ้งกิจการต่อบ้างในบางร้าน นอกจากลงทุนในย่านประชาราษฎร์บำเพ็ญห้วยขวาง ก็ยังขยายไปลงทุน ย่าน RCA ย่านพระราม 9 เพิ่มขึ้นด้วยคำพูดจาก สล็อต777

ผอ.เขตห้วยขวาง มองว่า การทยอยปิดตัวของธุรกิจหม้อไฟหม่าล่าทุนจีน เป็นเหมือนกันรีเซ็ตธุรกิจในย่านห้วยขวางใหม่อีกครั้ง หน่วยงานภาครัฐจะได้สกรีนกลุ่มทุนใหม่ๆที่จะเข้ามา ต้องดำเนินการทุกอย่างให้ถูกต้อง ตามกฎหมาย ไม่ใช่เป็นการมาเปิดธุรกิจแบบเทาๆ เหมือนในอดีตที่ผ่านมา

ราคาทองวันนี้ (22 มี.ค.2567) ย่อตัวตามต่างประเทศ "ลง 100 บาท"

รู้จัก “จันทรุปราคา” รับปรากฏการณ์ “ราหูอมจันทร์” ครั้งแรกของปี 2567 คำพูดจาก Slots777

ซน ฮึง-มิน ลั่นจะเล่นทีมชาติต่อเพื่อแฟนบอลเกาหลีใต้